ประกันบำนาญ

        Friend clipart old friend, Friend old friend Transparent FREE for ... 
  ประกันบำนาญคืออะไร ?

ประกันบำนาญ หรือ ประกันชีวิตแบบบำนาญ คือประกันชีวิตประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นประเภทที่ “เน้นผลตอบแทนมากกว่าความคุ้มครอง” ทำนองเดียวกับประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่เราคุ้นเคยกัน แต่จะแตกต่างกันตรงที่ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์มักจะมีผลตอบแทนหรือ “เงินคืน” ทยอยจ่ายคืนมาให้ระหว่างช่วงเวลาที่อยู่ในสัญญาความคุ้มครอง แต่ประกันบำนาญ จะไม่มีเงินคืนให้ระหว่างทาง แต่จะจ่ายคืนให้เป็น “เงินบำนาญ” ให้เราเป็นจำนวนเท่าๆกันทุกปี ตั้งแต่เริ่มเกษียณ (ตอนอายุ 55 60 หรือ 65 ปี) ไปจนถึงอายุ 85 หรือ 90 ปี แทน โดยที่เราต้องจ่ายเบี้ยตั้งแต่เริ่มทำประกัน ไปจนถึงปีสุดท้ายก่อนถึงอายุเกษียณ หรืออาจจะจ่ายเบี้ยตามระยะเวลาที่แบบประกันกำหนด (เช่น 1 ปี 5 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี) แล้วแต่แบบประกันของแต่ละบริษัท 

ในส่วนของความคุ้มครองชีวิต หากเสียชีวิต ช่วงก่อนจะเกษียณ ก็จะได้เงินชดเชยที่สูงกว่าเบี้ยที่จ่ายมาแล้วทั้งหมดเล็กน้อย (โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นจากทุนประกัน หรือเบี้ยทั้งหมดที่จ่ายมาแล้ว) หรือจ่ายมูลค่าเวนเงินสดกรมธรรม์ที่มีอยู่ แล้วแต่ว่าจำนวนใดจะมากกว่า (แต่จะมากกว่าเบี้ยทั้งหมดที่จ่ายมาแล้วอย่างแน่นอน) หากเสียชีวิต ช่วงหลังเกษียณ ก็จะได้เงินชดเชยเป็นมูลค่าปัจจุบันของเงินบำนาญส่วนที่ยังไม่ได้รับ (ซึ่งจะการันตีว่าอย่างน้อยต้องได้รับกี่ปี เช่น 10 ปี หรือ 15 ปี แล้วแต่แบบประกัน) หรือเบี้ยทั้งหมดที่จ่ายมา หักด้วยเงินบำนาญที่ได้รับไปแล้ว ซึ่งก็แล้วแต่แบบประกันอีกเช่นกัน



 ข้อจำกัดและจุดเด่นของประกันบำนาญ

ข้อจำกัดของประกันบำนาญ ก็คือ เป็นการออมระยะยาว ที่ต้องไปรอผลตอบแทนเป็นเงินบำนาญตอนเกษียณอีกหลายปี ทำให้อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ต้องการออมสำหรับเป้าหมายการออมระยะสั้น-กลาง และความคุ้มครองชีวิตอาจจะไม่สูงมากนัก จึงไม่เหมาะกับคนที่ต้องการทำประกันชีวิตแบบเน้นคุ้มครองภาระการเงินเป็นหลัก

จุดเด่นของประกันบำนาญ ก็คือ เป็นการออมเงินที่การันตีเงินได้ตอนเกษียณอายุ ซึ่งเป็นเป้าหมายออมเงินระยะยาวที่ต้องอาศัยวินัยในการออมสูง ดังนั้น เมื่อทำประกันบำนาญ เราจึงแน่ใจได้เลยว่า เราจะมีเงินใช้ตอนเกษียณแน่ๆส่วนหนึ่งอย่างแน่นอน แบบไม่ต้องเสี่ยง ซึ่งประกันบำนาญหลายๆแบบ อาจจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่แน่นอนอยู่ในช่วง 2-4% ต่อปี (แล้วแต่แบบประกัน) จึงเหมาะใช้เป็นเงินเกษียณส่วนหนึ่งที่ต้องการความปลอดภัยในระยะยาว สำหรับคนที่ต้องการวางแผนเก็บเงินเกษียณ อีกทั้งยังได้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม ในช่วงก่อนเกษียณสำหรับเบี้ยประกันที่จ่ายออมในทุกๆปีอีกด้วยด้วย ต่างจากเครื่องมืออื่นที่เป็นการลงทุน ที่อาจจะมีความผันผวนของผลตอบแทน และอาจจะไม่มีผลประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติม

สิทธิในการลดหย่อนภาษีของประกันบำนาญ

เบี้ยประกันที่เราจ่ายทุกปีเพื่อทำประกันบำนาญ สามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงกว่าเบี้ยประกันชีวิตแบบอื่นได้สูงสุดถึง 2 เท่า (เบี้ยประกันชีวิตแบบทั่วไป ใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท แต่เบี้ยประกันบำนาญใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 200,000 บาท) ทำให้เราเสียภาษีน้อยลง หรืออาจจะได้เงินคืนภาษีกลับมา ดังนั้นเท่ากับว่า การทำประกันบำนาญ จะทำให้เราได้ผลประโยชน์ถึง 2 ต่อ ต่อแรกก็คือ เราได้ผลตอบแทนเป็นเงินบำนาญหลังเกษียณ ต่อที่สอง คือเราได้ผลตอบแทนในรูปของรายจ่ายภาษีที่ลดลงหรือเงินคืนภาษี เท่ากับว่า เบี้ยประกันที่เราจ่ายไป ไม่ได้หายไปไหน แต่เป็นเงินออมที่เราจะได้เอาไว้ใช้หลังเกษียณ พร้อมทั้งช่วยให้เราเสียภาษีน้อยลงอย่างถูกต้องอีกด้วย โดยที่เงื่อนไขในการนำเบี้ยประกันบำนาญไปลดหย่อนภาษีก็คือ
  1. เบี้ยประกันนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด ไม่เกิน 15% ของรายได้ทั้งปี สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับเงินลงทุนหรือเงินสะสมในเครื่องมือออมเงินเพื่อการเกษียณ อย่าง RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และกองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ต้องรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท
  2. หากใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีของประกันชีวิตแบบทั่วไป ยังไม่เต็ม 100,000 บาท สามารถใช้เบี้ยประกันบำนาญไปลดหย่อนในส่วนของโควต้าเบี้ยประกันชีวิตแบบทั่วไปได้ (ดังนั้น หากไม่มีเบี้ยประกันชีวิตแบบทั่วไปเลย เบี้ยประกันบำนาญจะนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 300,000 บาท)
  3. ต้องเป็นแบบประกันที่มีระยะเวลาคุ้มครองเกิน 10 ปีขึ้นไป มีการจ่ายเงินผลประโยชน์คืนทุกปี ตั้งแต่ตอนอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปี หลังจากจ่ายเบี้ยประกันครบตามระยะเวลาที่กำหนดแล้ว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น